มันน่าลำบากใจมากเช่นกันถ้าหากจะพูดว่าในการถ่ายทำโฆษณานั้นอาจจะมีอุปสรรคมากในเรื่องของการค้นหา โลเกชั่นที่สวยๆและดูมีความโดดเด่น ในการถ่ายทำหรือกระทั่งการเซ็ทฉากในสตูดิโอเพื่อทำการถ่ายทำ หมายถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมต่อสถานที่ในการถ่ายทำนั้นจะมีเรื่องของเงินทุน งบประมาณในการเช่าสถานที่หรือการจัดทำ Prop ต่างๆมาทำการถ่ายทำโฆษณานั่นเอง แต่ถ้าหากว่าเป็นการถ่ายทำ ด้วยการสร้างฉากขึ้นมาด้วยเทคนิค 3D Animation มันจะทำให้งานออกมาง่ายมากขึ้น
ในบทความนี้ผมจะอธิบายในอย่างง่ายที่สุดถึงสิ่งที่เป็นข้อแยกประเภทของการสร้างงานภาพยนต์ Animation 3D ที่คุณดูในภาพยนตร์และสิ่งที่ทำให้มันแตกต่างจาก Animation 2D แบบเดิมว่ามันเป็นแบบไหน มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง อะไรคือสิ่งที่ Animation 3D เพิ่มเติมเข้ามา ? ปกติแล้วนั้นในพื้นฐานของการวาดรูป ไม่ว่าจะเป็นการวาดลงบนกระดาษ หรือจะวาดรูปเพื่อทำออกมาเป็นภาพ Animation แบบ 2D นั่นเป็นการออกแบบหรือสร้างงานแบบมุมมอง 2D ที่เรียบง่ายอย่างมาก…
ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายท่านที่เข้ามาอ่านบทความฉบับนี้ จะต้องเป็นผู้ผลิตสินค้าประเภทต่างๆ ออกมาขายอย่างแน่นอน ซึ่งการนำตัวละครการ์ตูนหรือตัวละครที่มีการออกแบบเอาไว้ไปใส่ในตัวสินค้าของเรามักจะเกิดขึ้นกับสินค้าประเภทของเล่น, ของใช้เด็ก, หรือของใช้ช่วงต้นของเหล่าวัยรุ่นต่างๆ โดยผมเชื่อว่าใครก็ตามที่กำลังผลิตสินค้าออกมาขายอยู่ในตอนนี้จะต้องมีการคิดที่จะหาภาพ หรือหาตัวละครชื่อดังมาใส่ในตัวสินค้าของตัวเอง เพื่อเพิ่มยอดขายหรือความน่าสนใจให้กับตัวสินค้าเป็นแน่ แต่เดี้ยวก่อน การนำตัวการ์ตูนหรือตัวละครที่มีการออกแบบเอาไว้มาใส่ในตัวสินค้าจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง “ลิขสิทธิ์” อยู่ โดยตามกฎหมายแล้วเจ้าของลิขสิทธิ์ตัวละครนั้นๆ จะได้รับค่าลิขสิทธิ์จากสินค้าที่เราขายออกไปทุกชิ้น ซึ่งนั่นมีผลเกี่ยวกับรายได้ที่จะได้น้อยลงจนเกิดการขาดทุนขึ้นมาอย่างแน่นอน ดังนั้นวันนี้ผมจึงนำหลักหรือเคล็ดลับในการเลือกตัวละครที่มีลิขสิทธ์มาใส่ในตัวสินค้าให้ได้เกิดประโยชน์สูงสุดมาฝากกัน จำเป็นเหรอที่ต้องใช้ตัวการ์ตูนที่มีชื่อเสียง ? สิ่งแรกที่เพื่อนๆ ต้องรู้เอาไว้เลยสำหรับการจะเลือกตัวละครมีชื่อเสียงมาใส่ในสินค้านั่นก็คือ…