Samsung Gear 360 กล้องถ่ายวีดีโอ 360 องศาที่ดีที่สุดในขณะนี้ !!

การถ่ายวีดีโอหรือภาพแบบ 360 องศาถือเป็นเทคโนรูปแบบใหม่ที่ตอบสนองกับเทคโนโลยี VR ในปัจจุบันนี้ได้อย่างลงตัว และยังถือเป็นการถ่ายวีดีโอที่สามารถเก็บบรรยากาศหรือประสบการณ์ที่เราผ่านมาได้อย่างครบถ้วน ซึ่งผมคิดว่าเพื่อนๆ หลายท่านน่าจะกำลังหากล้องที่สามารถถ่ายวีดีโอแบบ 360 องศาคุณภาพดีๆ อยู่ในขณะนี้เป็นแน่ ดังนั้นผมจึงอยากขอนำเสนอ Samsung Gear 360 สุดยอดกล้องที่สามารถถ่ายวีดีโอแบบ 360 องศาได้ในระดับ 4K ซึ่งมีอยู่ไม่กี่ตัวในปัจจุบันนี้ที่ทำได้

 How to Get Started with Samsung Gear 360

โดยเหตุผลที่ผมเลือกกล้อง Samsung Gear 360 นี้มานำเสนอนั้น นอกจากการถ่ายวีดีโอในระดับ 4K แล้ว กล้องตัวนี้ยังมีขนาดที่กระทัดรัดและราคาที่เหมาะสมกับความสามารถของมันเป็นอย่างมาก ซึ่งมันมีราคาอยู่เพียง 349.99 เหรียญเท่านั้น หรือประมาณ 12,000 บาท โดยตัวกล้อง Samsung Gear 360 จะมีรูปทรงเป็นแบบทรงกลมสีขาวขนาดเล็กกว่าลูกเบสบอล และมีน้ำหนักเพียง 5.4 ออนซ์ อีกทั้งตัวกล้องยังมีเลนส์ติดอยู่ด้านข้าง 2 เลนส์ และยังสามารถติดขาตั้งเล็กๆ ได้อีกด้วย ทั้งนี้ตัวแบตเตอรี่ของกล้องยังมีความอึดขนาดบันทึกวีดีโอได้นานถึง 90 นาที นอกจากนี้ตัวกล้องจะแสดงความสามารถของมันออกมาได้สูงสุดก็ต่อเมื่อใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน ซึ่งสามารถรองรับสมาร์ทโฟนได้หลายรุ่น ซึ่งไม่ว่าจะเป็น Samsung, Apple, LG, Huawei, OnePlus หรือรุ่นอื่นๆ อีกมากมาย

Samsung Gear 360 สามารถเชื่อมต่อกับมือถือได้ผ่านระบบ Bluetooth ซึ่งเราสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวกล้องผ่านแอพพลิเคชั่นที่ดาวน์โหลดจากใน Google Play Store ได้ ทั้งนี้ผมไม่แนะนำให้เพื่อนๆ ส่งไฟล์จากตัวกล้องมาเข้ามือถือโดยตรง เพราะมันจะทำให้ตัวกล้องเกิดความร้อนขึ้นสูงทีเดียว ดังนั้นถ้าจะให้ดีที่สุดคือเราควรที่จะส่งไฟล์ต่างๆ จากในกล้องไปสู่คอมพิวเตอร์ผ่านแอพ Gear 360 Action Director ที่มีอยู่แต่ใน Windows น่าจะดีกว่า และนอกจากนี้เราจะไม่สามารถทำอะไรจากตัวไฟล์ของ Samsung Gear 360 ได้เลยถ้าขาด Action Director นี้ไป ซึ่งตัว Action Director ก็มีข้อเสียเป็นอย่างมากในด้านการแปลงไฟล์จากตัว Samsung Gear 360 ในด้านการใช้เวลาที่มากพอสมควร เพราะฉะนั้นนอกจากการแปลงไฟล์จาก Action Director แล้ว ในการดัดแปลงด้านอื่นๆ ผมคิดว่าน่าจะใช้โปรแกรมนอกตัวอื่นๆ อย่าง Premiere Pro CC หรือ NLE suite น่าจะดีกว่า

ทั้งนี้ในด้านความละเอียดของตัวกล้อง ทาง Samsung Gear 360 ได้ใช้ H.265 (HEVC) ซึ่งจะทำให้ขนาดของไฟล์มีขนาดที่เล็กลง แต่ไม่ลดคุณภาพภาพที่ถ่ายออกมาเลย รวมไปถึงเรายังสามารถปรับขนาดของภาพได้หลายความละเอียดอีกด้วย และในส่วนของวีดีโอจะตั้งค่าเฟรมเรตไว้อยู่ที่ 30fps แต่เราสามารถตั้งค่าใหม่เป็น 60fps ได้ ทั้งนี้ตัวกล้องมีความสามารถในการจับภาพได้อย่างรวดเร็ว และสามารถปรับ Wide-angle ได้สูงถึง 1440p, 1080p หรือ 720p ซึ่งนอกจากนี้ Samsung Gear 360 ยังสามารถถ่ายภาพออกมาได้ในทุกสภาพภูมิอากาศ จนรวมไปถึงเสียงที่เก็บออกมาได้อย่างชัดเจนคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปอย่างแน่นอน

โดยรวมแล้วข้อดีของ Samsung Gear 360 ก็คือการบันทึกวีดีโอหรือภาพแบบ 360 องศาได้อย่างยอดเยี่ยม และมีราคาที่ไม่สูงเกินไป ถ้าเทียบกับขนาดจนรวมไปถึงความสามารถในการถ่ายภาพในหลายๆ ภูมิอากาศและแบตเตอรี่ที่อึดทนสำหรับการถ่ายวีดีโอได้นานถึง 90 นาที ส่วนข้อเสียที่เห็นได้ชัดก็คือไฟล์จากกล้องตัวนี้นั้นทำการดัดแปลงได้ยาก และยังไม่รองรับระบบ OS X หรือ iOS อีกทั้งตัวเลนส์ยังกันหมอกได้ไม่ถึง 100% ในบางครั้ง และเครื่องยังร้อนเร็วมากหากเราโอนไฟล์เข้าโทรศัพท์โดยตรง ไม่รองรับไมโครโฟนจากภายนอกจนรวมไปถึงถ่ายภาพแบบ 24p ไม่ได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Samsung Gear 360 ก็ยังถือเป็นกล้องที่ถ่ายภาพหรือวีดีโอแบบ 360 องศาได้ดีที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้

แหล่งที่มา pcmag.com