เจาะลึกการสร้าง CG จุดวิเศษ นาคี ละครแฟนตาซีสไตล์ไทย

กระแสละครที่ตอนนี้กำลังดังมากที่สุดก็คือละครที่สร้างมาจากนวนิยายชื่อดังของ ตรี อภิรุม นักเขียนนิยายลึกลับชื่อดังอย่าง “นาคี” ซึ่งบางคนแค่เดาจากชื่อเรื่องก็ยังพอจะเดาออกแล้วว่า ละครจะมาในลักษณะแบบไหนและเกี่ยวกับอะไรนั่นเอง โดยเรื่องนี้นั้นเป็นละครที่สร้างจากนิยายโดยตรง และมีหลายฉากที่แสดงถึงความเป็นแฟนตาซี และหลายฉากที่มีการปรากฏตัวของ สัตว์ในตำนานที่ชาวไทยทั้งเชื่อและไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง นั่นก็คือพญานาคนั่นเอง รวมถึงฉากเด่นๆอีกมากมายเลยทีเดียว

ภาพจาก http://p3.isanook.com/mv/0/ud/12/63477/clipboard2-vert.jpg

เนื้อเรื่องของละครนาคี เราคงไม่ต้องสาธยายกันไปให้มากเท่าไหร่ เพราะเชื่อว่าหลายๆคนนั้นก็น่าจะได้ผ่านสายตาในการดูละครเรื่องนี้กันมาบ้างแล้วนั่นเอง ซึ่งจากกระแสและฟีดแบ็กที่หลายๆคนพูดกันเยอะมากหน่อยก็คือ เรื่องของภาษาพื้นบ้านทางอีสานซึ่งตัวละครในเรื่องที่อยู่ในหมู่บ้านทางอุบลราชธานีนั้นพูดภาษาอีสานทั้งหมด ทางผู้จัดเลยต้องเพิ่มเติม Subtitle ภาษาไทยกลางเอาไว้ให้คนที่ฟังไม่ออกได้อ่านระหว่างชม รวมไปถึง นักแสดงชั้นนำที่เล่นได้อย่างถึงใจมากเลยนั่นเอง ผสมผสานกับเนื้อเรื่องที่โอเคอยู่แล้ว

แต่สิ่งที่หลายคนนั้นไม่อยากจะคิดเลยว่าจะทำออกมาได้ดีเป็นอย่างมากเลยนั่นก็คือ งานด้านการสร้าง Computer Generated(CG) ที่โดดเด่นขึ้นมาชนิดที่ว่าราวกับสัตว์มหัศจรรย์ที่มีอยู่แต่เพียงในตำนานอย่างพญานาคนั้น เหมือนมีชีวิตจริงราวกับมันหลุดออกมาจากในหนังสือภาพ และออกมาโลดแล่นมีตัวตนให้เราจับต้องได้จริงๆ ซึ่งเราต้องยอมรับเลยว่างานสร้างสรรค์ด้าน CG ที่ทีมงานใส่ใจรายละเอียดตรงนี้เป็นพิเศษนั้นน่าสนใจและน่าติดตามในด้านการพัฒนาต่อไปอย่างมากเลยทีเดียว

จากเดิมนั้น ถ้าหากใครที่เคยติดตามการทำงานของทีมทำ CG ทีมนี้มาก่อนนั้น จะทราบดีเลยว่าทีมนี้นั้นทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เพราะเคยฝากผลงานเกี่ยวกับละครหรือภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับพญานาคมาแล้วสองเรื่องก่อนหน้านี้ด้วยนั่นเอง รวมถึงการทำ CG ให้กับละครที่ออนแอร์ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 อีกหลายต่อหลายเรื่องอีกด้วย ทำให้ช่องสามนั้นสามารถที่จะพัฒนาละครฟอร์มใหญ่ที่สามารถใช้เรื่อง CG มาเป็นส่วนประกอบได้นั่นเอง

อย่างเช่นละครไทยที่เคยออกอากาศทางช่อง 3 เมื่อสองสามปีที่แล้วอย่าง มณีสวาท ก็เป็นผลงานการทำ CG  ของทีมนี้อีกเช่นกัน และได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากว่าสามารถทำ CG ให้กับละครหลังข่าวได้ในระดับที่น่าดูชมมากเลยทีเดียว พญานาค และพญาครุฑที่ออกแบบนั้น เหมือนมีชีวิตจริง เหมือนดุจับต้องได้มาก พญานาคจะออกแบบในแบบฉบับตามความเชื่อของคนไทยนั่นเอง หรือเป็นทางแบบของคนไทยกึ่งๆทางฝั่งลาวที่มีความเชื่อในรูปร่างของพญานาคแบบที่คล้ายกับทางประเทศไทยของเรา

ส่วนดีไซน์การออกแบบพญาครุฑนั้นทางทีมงานก็ได้ใช้ส่วนหัวของพญาครุฑให้เหมือนกับนกอินทรีจริง ไม่เหมือนกับพญาครุฑในตำนานที่มีเครื่ององค์ทรงเครื่องเต็มยศ มีมงกุฎอีกด้วย เพราะทางทีมงานเองก็ต้องการที่จะทำให้พญาครุฑในเรื่องนั้นสมจริงและราวกับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตจริงที่เคยมีตัวตนอยู่บนโลกอีกด้วยนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ ทางทีมงานก็เลยมีความจำเป็นจะต้องออกแบบตัวละครในจินตนาการเหล่านี้ให้ดูมีชีวิตชีวามากที่สุด รวมถึงการปรับแต่งฉากต่างๆขึ้นมาด้วยคอมพิวเตอร์และ เอฟเฟคต์ต่างๆลงไปให้ดูสมจริงให้ได้มากที่สุดนั่นเอง

ทางด้านของ CG ด้านอื่นๆในเรื่องก็เห็นจะเป็น งูขนาดเล็กที่เป็นบริวารของพญานาคที่ทางทีมงานก็สร้างขึ้นมาด้วย CG ขึ้นมาอีกด้วยเช่นกันจนทำให้หลายๆคนที่ชมต่างก็ยกนิ้วให้กันเลยเช่นกัน

ผลงานมที่เกี่ยวกับพญานาคก่อนหน้านั้น ทางทีมงานก็ได้สร้างพญานาคออกมาในลักษณะของงูใหญ่สีดำในภาพยนตร์เรื่องยาวอย่าง ปาฏิหาริย์รักต่างพันธุ์ ที่ได้ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี มาเล่นเป็นพระเอกของเรื่อง และมี พลอย จินดาโชติ เล่นเป็นสาวลึกลับที่มีร่างจริงร่วมกับพี่ชายในเรื่องเป็นพญานาค และแน่นอนว่า พญานาคเรื่องนี้ก็จะมีดีไซน์แตกต่างกันไปจากในตำนานที่เราเชื่อกันนั่นเองเพราะทีมงานได้ออกแบบใหม่กันหมดเหมือนรีเซ็ตความเชื่อแบบเดิมนั่นเอง

ภาพจาก http://wd.thaibuffer.com/o/photo/950/kapook_world-946751.jpg

ส่วนในเรื่อง นาคี ที่เราจะพูดถึงนี้ ทางทีมงานต้องศึกษาในเรื่องของความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคทางความเชื่อของคนทางอีสานทางอุบลราชธานี รวมถึงความเชื่อของพญานาคทางวัฒนธรรมขอมโบราณหรือทางกัมพูชามาประยุกต์ เพราะเนื้อเรื่องนั้น มีเรื่องของดินแดนขอมโบราณมาเป็นตัวต้นเหตุของการเกิดเรื่องตั้งแต่ยุคอดีตนั่นเอง สังเกตว่าในฉากจะมีปราสาทหินโบราณที่สร้างขึ้นในยุคขอมเรืองอำนาจด้วยนั่นเอง พญานาคเลยจะอิงต้นแบบมาจากทางขอมเป็นหลักๆเลยนั่นเอง

แต่ถ้าเราสังเกตนั้น พญานาคจะมีจุดสังเกตที่ทางทีมงานออกแบบ CG ต้องระลึกไว้เสมอก็คือ หงอนบนศีรษะของพญานาคนั่นเอง และยิ่งถ้าหากพญานาคตัวไหนมีขนาดใหญ่ ดูเรืองอำนาจ นั่นแหละคือพญานาคที่เป็นตัวเอกของเรื่องเลย นั่นก็คือ นางนาคนั่นเอง ทางทีมงานไมได้แต่เพียงแค่ออกแบบเฉพาะพญานาคเผือกทีเป็นร่างของนางนาคีเพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่ทีมงานยังได้ออกแบบพญานาคตัวอื่นๆเป็นCG และฉากเด็ดๆเช่น มหานครโบราณจมน้ำโดยมีพญานาคีรัดปราสาทหินและคำรามกึกก้อง เป็นฉากที่คนชื่นชมมากว่าสมจริงราวกับดูภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ในโรงภาพยนตร์เลยก็ว่าได้

ต่อมาก็คือ CG ที่เป็นพญานาคตัวเล็กน่ารักสองตัว สีเขียวๆ ที่มักจะเลื้อยขึ้นมาบนฝ่ามือของนางเอเป็นประจำ นั่นก็เป็นพญานาค CG ที่ใช้เทคนิคการตัดต่อเพิ่มเติมลงไปด้วยเทคนิคการคอมโพซิทภาพนั่นเอง แต่ถ้าลองมองดูแล้ว เกล็ด ผิวหนังของพญานาคจิ๋วหน้าตาน่ารักนั้น เหมือนจริงมากๆราวกับว่าคนที่อยู่ในฉากกำลังพูดคุยและสัมผัสกับตัวของมันจริงๆเลยก็ว่าได้

เราไมได้เห็นแต่เพียงแค่ว่า พญานาคตัวเอกเท่านี้เท่านั้น แต่ยังมีพญานาคตัวอื่นในเรื่องที่มีบทบาทสำคัญ และสร้างขึ้นมาด้วย CG ให้ดูมีความดิบ เถื่อนและมีความดุร้ายอีกตัวหนึ่ง นั่นก็คือ พญานาคสีนิล วชิรปราการที่เป็นอีกหนึ่งสาวกของนาคีนั่นเอง พญานาคตัวนี้จะมีความดุร้ายมากกว่านาคี ทำให้ทีมงานเลยต้องดีไซน์เพิ่มเติมขึ้นมาให้ดุมีความดุร้าย ดูกระหายเลือดมากกว่าพญานาคีที่เป็นสีเผือกและดูทรงอำนาจ แต่ตัวนี้ ใช้โทนสีดำ บ่งบอกถึงความโหดเหี้ยมเป็นพิเศษเลยนั่นเอง

ขาดไม่ได้กับช็อตเด็ดของการใช้ CG ที่ต้องทำฉากที่ นาคีร่างมนุษย์นั้น โดนคำสาปจากพ่อปู่ศรีสุทโธนาค ที่ทำให้นางนั้นต้องสาปกลายเป็นหินไปนานนับพันปีนั่นเอง ฉากนี้ทีมงานก็ได้ผสมผสานเทคนิคคอมพิวเตอร์กราฟิกเข้ากับการถ่ายทำกับฉากคนจริงไว้ก่อนแล้วก่อนจะค่อยๆตัดต่อทำให้เอฟเฟคต์การทำให้หน้าคนจริงนั้นถูก Morph กลายเป็นหินไปจริงๆ เป็นฉากเด็ดที่แฟนละครนั้นต่างก็ยกย่องกันอย่างมากว่าทำได้เหมือนจริง ไม่ได้เฟคเลยนั่นเอง

เหล่างูหลายๆขนาดที่ปรากฏในเรื่องเองก็เช่นกัน เราจะเห็นฉากที่มีงูเลื้อยไปเลื้อยตามตามพงหญ้าบ้าง กองใบ้ไม้แห้งบ้าง ตามพื้นบ้างมากมายหลากหลายตัวเลยทีเดียว งูเหล่านี้ต่างเป็นงูที่ทำด้วย CG ล้วนๆ ไม่เว้นกระทั่ง งูเจ้าแม่นาคีแบบเวอร์ชั่นไซส์เล็กที่อยู่ในกล่อง นั่นก็คือการถ่ายทำกล่องลังเปล่าๆก่อนจะเติม CG ที่เป็นงูเจ้าแม่ลงไป

และสุดท้ายก็เป็นฉากที่พญาครุฑพยายามจะจับเจ้าแม่นาคีในฉากย้อนกาลเวลา พญาครุฑในฉากนี้ ออกแบบให้แตกต่างไปจากพญาครุฑในเรื่องมณีสวาทชนิดพลิกหน้ามือเป็นหลังมือเลยนั่นเอง แล้วยิ่งผสมผสานกับฉากในธรรมชาติ ทำให้เหมือนเรากำลังอยู่ในป่าหิมพานต์ของจริงกันเลยอีกด้วย