Autodesk ประกาศปล่อย Flame Family 2017 extension 1 ซอฟแวร์สำหรับคนทำ 3D Visual Effects สาย Compositing และ Finishing โดยเฉพาะ !!

       โดยในวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ณ IBC 2016, AMSTERDAM บริษัท Autodesk ได้ทำการประกาศปล่อย Flame Family 2017 extension 1 ซอฟแวร์สำหรับคนทำ 3D Visual Effects สาย Compositing และ Finishing โดยเฉพาะ ซึ่งการอัพเดทในครั้งนี้จะทำการเพิ่มฟีเจอร์ 3D Scene Navigation เข้ามาใหม่ และทำการปรับปรุงกระบวนการทำงานร่วมกันกับ Autodesk และเครื่องมือ Third-Party 3D Animation นอกจากนี้ยังได้ทำการเพิ่มวิธีการทำงานแบบใหม่สำหรับ Multichannel (EXR) Render Passes ซึ่งจะส่งผลให้การ Render มีคุณภาพที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม โดยนอกจากที่กล่าวมาในข้างต้นแล้ว Color Management ยังดีกว่าเดิม พร้อมกับอัพเดทด้าน Compositing ใหม่ จนรวมไปถึงการเพิ่มเครื่องมือ Compass ใหม่เข้ามาอีกด้วย

Flame 2017 Ext 1 Creative 3D in Flame & Batch Enhancements

ส่วนสำหรับ Flame Extension ตัวนี้ถือเป็นการอัพเดทที่ได้ทำการเพิ่มสิ่งต่างๆ ที่จะทำให้คนทำงานสายกราฟฟิกสามารถทำงานกับผลงานของตนได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ด้วยฟีเจอร์ใหม่ยังทำให้เราสามารถสร้าง Navigating 3D Scenes ได้ง่ายขึ้นและยังสอดคล้องไปกับกระบวนการทำงานของ Autodesk Maya 3D อีกด้วย

Flame 2017 Ext 1 Connected Sources Workflow

ฟีเจอร์และการอัพเดทเด่นๆ สำหรับ Flame Family 2017 extension 1

• Maya Inspired 3D Scene Navigation และ Manipulators รูปแบบใหม่ที่จะทำให้เราสามารถทำท่าทางให้กับตัวโมเดลของเราได้ลื่นไหลมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม และยังรวมไปถึงการเลือกรูปทรงเรขาคณิต, และการโมดิไฟล์ซีนที่มีการทับซ้อนกันอยู่
• สามารถทำงานร่วมกับ Autodesk Maya และ ซอฟแวร์ Third-Party 3D Animation ผ่านฟีเจอร์ใหม่ที่ทำการเอ็กพอร์ตซีน .FBX ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ผู้ใช้งานซอฟแวร์ Flame ยังสามารถเอ็กพอร์ตโปรเจคที่มีทับซ้อนกันและรวมไปถึงรูปทรงเรขาคณิตต่างๆ, Surfaces ที่ผิดรูป, และ Textures ได้แล้วด้วย เช่นเดียวกันกับ Animation และกระบวนการทำงานที่จะสะดวกขึ้นกว่าเดิม
• มีการปรับเปลี่ยนไปป์ไลน์ที่มากขึ้นสำหรับ Color Management, ไปป์ไลน์ Compositing และ Multi-Channel Clips, ลดความซับซ้อนในการทำงานสำหรับผู้ใช้ และเพิ่มประสิทธิภาพให้ตัวซอฟแวร์ดีขึ้นกว่าเดิม
• อัพเดทการ Render ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้ Texture และ Light 3D Scenes สามารถคิดออกแบบออกมาได้หลากหลาย และถูกต้องตามเทคนิคที่ใช้มากกว่าเดิม ทั้งนี้ Extension 1 ยังได้รวบรวมเทคนิคใหม่ๆ สุดเจ๋งใน Physically Based Rendering (PBR) พร้อมด้วย Core Lighting และเครื่องมือสำหรับทำ Texture จนรวมไปถึงแพคเกจใหม่ที่ได้รวบรวม Algorithmic Substance Textures ไว้มากถึง 60 แบบ
• ปรับปรุงให้ EXR handling ให้ทำงานดีขึ้นสำหรับการอัพเกรดไปป์ไลน์ Compositing และ Multi EXRs ยังสามารถที่จะ Imported, Conformed, Cached, และ Archived ในตอนที่เป็นคลิปเดี่ยวอยู่ได้
• ปรับปรุงกระบวนการเชื่อมต่อของสีสำหรับนำไปใช้ตกแต่ง ซึ่งชุด Effects ทั้งหมดสามารถนำไปใช้ใน Autodesk Lustre โดยผ่านการ Render ด้วย Background Reactor, และ Tangent ELEMENT panels ซึ่งตอนนี้ได้เปลี่ยนมาใช้แอพพลิเคชั่นที่ทำงานด้านนี้โดยเฉพาะแล้ว
• สามารถตั้งค่าสิ่งต่างๆ สำหรับโปรเจคได้อย่างอิสระ และจะประกอบไปด้วย Metadata ทั้งหมดที่จะนำเข้าสู่ Re-Import Content หรือการโอน Assets จาก Workstations ด้วยรีโมท

ทั้งนี้ Flame Family 2017 extension 1 จะเปิดให้ทำโลกได้ใช้งานผ่านการสมัครสมาชิกตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2016 เป็นต้นไป สามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ Flame บน autodesk.com ได้แล้ว

แหล่งที่มา cgsociety